มาต่อชั้นเหล็กฉากเองดีกว่า (1)
DIY คุณทำได้ นำเสนอผลงานการประยุกต์ใช้เหล็กฉาก ผลงานดีๆ จากทางบ้าน ครั้งนี้ขอแนะนำผลงานของ…
คุณ pa_ul แห่ง ห้องชายคา www.pantip.com
Link: http://topicstock.pantip.com/home/topicstock/2008/09/R6967193/R6967193.html
ต้องขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
#### มาต่อชั้นเหล็กฉากเองดีกว่า (1) ####
เห็นมีหลายๆ ท่านในชายคานี้มาสาธิตการต่อชั้นเหล็กให้ดูชมแล้วนะครับ ดูแล้วง๊าย…..ง่ายนะครับ จะไปยากอะไร ก็แค่ไปสั่งตัดเหล็กให้ได้ตามขนาด แล้วก็ซื้อสกรูกับน๊อตกับเหล็กประกับมาพร้อมกัน แล้วก็ลงมือขันๆๆๆๆ ก็ได้ชั้นเหล็กมาใช้งานแล้ว ใช่มั้ยครับ
แล้วผมนี่จะมาแนะนำอะไรตรงนี้ดีหละครับ รู้ๆ กันอยู่หมดแล้ว แต่มีใครมั้ยครับ ที่ต่อชั้นจริงๆ แล้วปรากฎว่ามันโยกเยกไม่แข็งแรงครับ ใครชนเข้าหน่อยมันก็โย้ไปเย้มา เราก็ว่าเราขันสกรูแน่นหนาจนแทบจะเอาไม่ออกแล้วนะ ทำไมมันโยกโย้เย้จังเลย บางคนก็อาศัยว่าวางของหนักๆ หน่อย ก็ทำให้…รู้สึก….แน่นหนาขึ้น แต่มันไม่ได้แน่นหนาจริงสิครับ เพียงแค่มันไม่พังครีนลงมาต่อหน้าต่อตาเท่านั้นเองครับ
มา…มาดูกันดีกว่าครับ ว่าทำไงให้มันแน่นหนาอย่างที่ควรจะเป็น เผื่อต้องการต่อให้มันชนฝ้าเพดาน จะได้ไม่ต้องมาห่วงว่ามันจะล้มมาทับ หรือพังครืนลงมานะครับ
ขั้นตอนหลักๆ ก็คงเหมือนท่านอื่นๆ ที่เคยมาแสดงวิธีการนะครับ ก็คือ
ร่างแบบคร่าวๆ เพื่อกำหนดขนาดความยาวของเหล็กฉากแต่ละชิ้น เหล็กฉากมันยาวสามเมตรนะครับ กำหนดให้ลงตัวจะได้ไม่เสียเศษครับ
ได้ขนาดแต่ละชิ้นแล้วก็เอาไปซื้อที่ร้าน ให้ร้านตัดมาให้ตามขนาดที่ต้องการนะครับ
ซื้อสกรู และน๊อตติดมาตามจำนวนที่ต้องการใช้ ถ้านับตัวก็แพงหน่อย ถ้าซื้อเป็นถุง (ถุงละ 50 ตัว) ก็ถูกลงครับ
ซื้อแผ่นเหล็กประกับ หรือเหล็กฉากเข้ามุมมาด้วย เอามามากหน่อยครับ เหล็กอันนี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของชั้นไม่ให้โยกเยกครับ บอกที่ร้านว่าขอซื้ออย่างหนา (ถ้ามี) นะครับ ไม่เอาอย่างบาง
แล้วก็ซื้อประแจเบอร์ 10 มาตัวนึง พร้อมกับยางรองขาเหล็กฉากกันไม่ให้มันขูดพื้นครับ เอาถุงมือผ้ามาด้วยซักคู่ก็ดีครับ จะได้ไม่เจ็บมือเวลาไขสกรูไปเยอะๆ และก็ช่วยป้องกันเผื่อพลาดไปโดนคมมุมเหล็กเข้าโดยไม่เจตนา จะได้ไม่เป็นแผลใหญ่นักครับ
ในรูปมันดูโค้งๆ เพราะกล้องถ่ายรูปตั้งเป็นมุมกว้างนะครับ ห้องมันแคบครับ พอเปิดออกมาก็เป็นอย่างนี้ครับ
ตอนซื้อเหล็กให้ซื้ออย่างหนาครับ (1.8mm) บอกที่ร้านว่าเอาเหล็กอย่างหนาเต็มนะครับ อันนี้ไม่ใช่แค่ว่ามันแข็งแรงกว่านะครับ แต่มุมและฉากมันจะเที่ยงตรงกว่าด้วยครับ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำไปวางของหนักๆ ก็สมควรใช้อย่างหนาครับ
ในรูปที่เห็น ยี่ห้อบนเป็นเหล็กบาง ส่วนยี่ห้อล่างเป็นเหล็กหนาครับ
อีกอย่างที่ผมสังเกตเห็นก็คือว่า สันของเหล็กฉากยี่ห้ออันบนผลิตมาไม่ดีครับ มันเป็นคมครับ เวลาใช้งานตอนเอาของเข้าออกแล้วพลาดไปโดน มันขูดโดนหนังผมถลอกไปหลายทีแล้วครับ แต่ยี่ห้ออันล่างนี่ไม่คมครับ
ได้ของครบแล้วก็วางแผนว่าจะประกอบอันไหนก่อนหลัง ถ้าชั้นขนาดเล็กนี่คงไม่มีปัญหาว่าจะประกอบชิ้นไหนก่อนหลัง แต่ถ้าชั้นที่ค่อนข้างสูง หรือประกอบในพื้นที่จำกัดนี่ต้องวางแผนหน่อยครับ ไม่งั้นทำงานลำบากครับ
แนะนำให้ประกอบเสาด้านซ้ายขวาสี่ต้น(สำหรับชั้นช่วงเดียว) กับตัวเหล็กขวางเฉพาะด้านในที่อยู่ติดผนัง กับเหล็กขวางด้านข้างก่อนครับ อย่างเส้นสีแดงในรูปนะครับ ส่วนเหล็กที่สีน้ำเงินไว้ทีหลังครับ
ส่วนจะใส่ตรงชั้นไหนก่อน แนะนำให้ใส่ตำแหน่งชั้นบนสุดกับล่างสุดก่อนครับ
คราวนี้ก็มาถึงความสำคัญของเหล็กเข้ามุม กับความหนาของเหล็กฉากที่เลือกใช้หละครับ ว่าชั้นประกอบเสร็จแล้วจะโยกเยกหรือไม่
ในการประกอบให้ใส่เหล็กประกับเข้ามุมตรงมุมที่อยู่บนสุด ล่างสุด ซ้ายสุด และขวาสุดของทุกๆ ด้านครับ การใส่เหล็กชิ้นนี้บางคนก็ประกบด้านนอกทั้งแผ่นเลย แต่ผมชอบที่จะสอดไว้ระหว่างชิ้นของเหล็กฉากอย่างในรูปครับ เหล็กจะได้ไม่งอ ดูสวยงามครับ
มีข้อที่ต้องคิดให้เรียบร้อยก่อนที่จะลงมือประกอบจริงอยู่สองสามเรื่องครับ
เรื่องแรกคือว่าเหล็กขวางนี่จะหันสันขึ้นหรือลง ถ้าหันขึ้นเวลาวางแผ่นไม้ชั้นเข้าไปจะวางยากหน่อย เพราะจะติดหัวสกรู โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าแผ่นไม้ตัดมาค่อนข้างขนาดเป๊ะๆ และเป็นไม้ชิ้น งอไม่สะดวก บางทีอาจจะต้องวางแผ่นไม้ชั้นลงไปก่อนใส่สกรูครับ ซึ่งจะทำงานค่อนข้างลำบากครับ
ประโยชน์ของการหันสันขึ้นก็คือมันจะเป็นขอบกันของตกได้ครับ ถ้าวางของชิ้นเล็กๆ แล้วอาจจะกลิ้งตกลงมาได้ วางหันขึ้นอย่างนี้คงจะเหมาะครับ
แต่ในขณะเดียวกันมันก็เกะกะถ้าของที่วางมีขนาดลึกกว่าความลึกของชั้น เช่นพวกกล่องใหญ่ๆ และถ้าเป็นเหล็กฉากที่สันเป็นคมอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้แล้วหละก็ ตอนเผลอๆ คุณก็จะโดนไอ้สันคมๆ นั่นแหละขูดเอาอยู่เรื่อยๆ ครับ
ถ้าหันสันลง ก็กลับกับข้างบนครับ แล้วเหล็กฉากตัวขวางมันยังสามารถใช้ประโยชน์ในการห้อยแขวงอะไรกระจุกกระจิกได้ด้วยครับ แต่มันก็ไปทำให้เสียเนื้อที่ทางสูงของแต่ละชั้นไปนิดหน่อยด้วยครับ
เรื่องที่สองก็คือว่าเหล็กขวางตัวที่อยู่ซ้ายขวา กับตัวที่อยู่หน้าหลัง ตัวไหนควรอยู่ทับบนตัวไหน อันนี้ผมมักให้ตัวที่อยู่ด้านหน้าและด้านหลัง อยู่ทับบนตัวซ้ายขวาครับ เพราะเวลาวางแผ่นไม้ชั้นแล้วมันเรียบเสมอกับเหล็ก ถ้ามันอยู่ล่าง แผ่นไม้ด้านซ้ายขวาจะเผยอขึ้นเล็กน้อยครับ ผมเป็นคนขี้รำคาญครับ
อีกเรื่องจะเป็นกรณีที่ต้องการต่อชั้นมากกว่าหนึ่งช่วง ปัญหาอยู่ตรงเสาที่อยู่ตรงกลางระหว่างสองช่วงครับ ถ้าต่อชั้นสองช่วงโดยทำเป็นชั้นสองตัววางซ้ายขวาชนกัน อย่างนี้ทำงานง่ายครับ แต่เปลืองเหล็กเสากลางเพิ่มขึ้นครับ รวมถึงสกรูน๊อตอีกนิดหน่อยด้วยครับ แต่ก็ทำให้ประกอบได้สะดวก และถ้าจะโยกย้ายเคลื่อนไปไหนก็จัดการได้ง่ายกว่าครับ
แต่ถ้าจะประหยัดก็ใช้เสาต้นเดียวตรงกลาง อย่างชั้นที่ผมเอารูปมาลง อันนี้ประกอบยุ่งยากหน่อยครับ เดี๋ยวจะเอารูปเฉพาะตรงเสากลางมาให้ดูครับ มันถูกบานประตูบังอยู่ครับ
รูปนี้ครับ ถ่ายรูปมุมเฉียงมากไปหน่อยครับแต่ก็เห็นชัดเจนว่าใช้เหล็กประกับตัวนึงมาเสริมเพื่อรับเหล็กฉากตัวขวางครับ ผมจึงแนะนำให้ใช้เหล็กประกับอย่างหนาครับ หรือถ้าร้านที่ขายไม่มีอย่างหนา ก็ใช้อย่างบางมาซ้อนกันสองหรือสามแผ่นครับ แข็งแรงเหลือเฟือครับ
แต่การมีเสาเดียวนั้น จะต้องประกอบเหล็กขวางตัวที่อยู่ด้านข้างทั้งสองตัวไปพร้อมกันในคราวเดียว ก็ยุ่งยากนิดหน่อยครับ รูปไม่ค่อยชัดนะครับ
เอาหละครับ คิดออกกันรึยังครับว่าจะเอายังไง เสาเดียวสองเสา หันขึ้นหันลง ทับบนทับล่าง คิดออกแล้ว ของก็ซื้อมาพร้อมแล้ว คงอยากจะเริ่มลงมือประกอบแล้วใช่มั้ยครับ
แต่…เดี๋ยวก่อนครับ อย่างเพิ่งครับ มีเรื่องสำคัญอีกเรื่องที่ต้องพิจารณาครับ ก็คือไอ้ตัวสกรูกับน๊อต แล้วก็ความหนาของเหล็กประกับ และเหล็กฉากที่ใช้นี่แหละครับ มันมีส่วนอย่างมากว่ามันจะทำให้ชั้นที่ประกอบขึ้นมานั้นแข็งแรงไม่โยกเยกคลอนแคลนเป็นกระท่อมพังๆ ได้ยังไงกัน เดี๋ยวมาดูกันครับ ตอนนี้ขอพักครึ่งเวลาก่อนครับ ผู้ชมทุกท่านจะอาบน้ำอาบท่า ทานข้าวปลาก็ตามสะดวกนะครับ อีกสองชั่วยามจะกลับมาเปิดโรงภาคสองครับ